วันฟ้าใสช่วงสุดสัปดาห์กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
บ้านบ่อสร้างดูผู้คนคึกคักกว่าที่ผ่านมา ถนนถูกปิดเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับคนเดิน ร่มสีสันสดใสถูกประดับเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้าพร้อมเวทีการแสดง
ร้านค้าในชุมชนนำร่มมาตกแต่งอย่างสวยงาม “เทศกาลร่มบ่อสร้างและหัตถกรรมสันกำแพง ครั้งที่
34” โดยงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ร่มเย็นด้วยบารมี 9 สู่ 10” ภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ
มากมาย สาเหตุเริ่มแรกของการจัดงานเทศกาลร่มบ่อสร้างมาจากชาวบ้านที่ทำร่มมีรายได้ต่ำและคิดละทิ้งการทำร่มหันไปประกอบอาชีพอื่น
หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจึงได้เข้ามามีบทบาทอนุรักษ์และฟื้นฟู
และจัดงานเทศการขึ้นตั้งแต่ปี 2529 จนปัจจุบัน
ย้อนอดีตไปประมาณ 200 ปีมาแล้ว ร่มบ่อสร้างเริ่มจาก พระอินถา ภิกษุประจำวัดบ่อสร้าง
ธุดงค์ใกล้ชายแดนพม่า มีชาวบ้านใจบุญนำกลดมาถวายเพื่อใช้ป้องกันแดดฝน
เมื่อได้เห็นกลดแปลกตามีลักษณะเหมือนร่มใช้กันแดดกันฝนได้
ทำจากวัสดุหาง่ายและพกพาได้สะดวกจึงขอศึกษาวิธีการทำร่มและนำกลับมาเผยแพร่ยังบ้านบ่อสร้าง
ชาวบ้านต่างสนใจการเรียนทำร่มเป็นจำนวนมากโดยผู้ชายเรียนการทำโครงร่มโดยใช้ไม้บงหรือไม้ไผ่
ผู้หญิงศึกษาการทำกระดาษสาสำหรับใช้คลุมร่ม ไม่นานก็สามารถทำกันได้
จนกลายเป็นอาชีพรองจากการทำนาจึงเกิดเป็นหมู่บ้านทำร่มขึ้นโดยเฉพาะจนมีชื่อเสียง
ปัจจุบันร่มเป็นที่ยอมรับว่าร่มบ่อสร้างเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเชียงใหม่
จนได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (geographical indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อปี 2552
แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าร่มบ่อสร้างคือการจัดการพื้นที่ค้าขายและต้อนรับนักท่องเที่ยวของของชุมชนบริเวณนี้
เริ่มต้นจากศูนย์อุตสาหกรรมทำร่มอันเป็นเหมือนศูนย์การเรียนรู้
เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาวัฒนธรรมการทำร่มที่ครบวงจร
เราจึงมักเห็นนักท่องเที่ยวเริ่มต้นจากจุดนี้และเป็นหนึ่งในโปรแกรมการท่องเที่ยวของกรุ๊ปทัวร์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ การได้มาเห็นกระบวนการทำร่มนี่เองทำให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจและอยากได้ไว้ในครอบครอง
เมื่อออกมาบริเวณสองฝากถนนจะพบร้านค้าขายสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านอันหลากหลายตลอดทาง
ร้านค้าเหล่านี้เป็นเหมือนแหล่งจำหน่ายและกระจายสินค้าสร้างรายได้หล่อเลี้ยงให้กับผู้คนในชุมชนไม่เพียงแต่ขายปลีกแต่ยังมีการขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าจากที่อื่นนำไปขายต่อทำให้ผู้ประกอบอาชีพด้านหัตถกรรมและทำร่มให้มีรายได้พอเพียงกับสภาพการครองชีพในปัจจุบัน
ภายในชุมชนมีที่ทำการไปรษณีย์เป็นระบบโลจิสติกส์ในการขนส่งสินค้ารองรับการค้าขายระบบออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน
เท่าที่สังเกตมีผู้มาใช้บริการส่งของจำนวนมากทีเดียว
ชุมชนบ้านบ่อสร้างจึงนับเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือของผู้คนในชุมชนและผู้เกี่ยวข้องในการอนุรักษณ์และพัฒนาของดีของชุมชนที่สืบทอดต่อกันมาทำให้เกิดรายได้ยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านเมื่อความเป็นอยู่ดีชีวิตก็มีสุข
ในอนาคตเชื่อว่าย่านนี้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากการมีสถานที่ท่องเที่ยวหางใหม่คือ
พิพิธภัณฑ์ใหม่เอี่ยมและสวนน้ำแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังจะเปิดในอนาคตอันใกล้นี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น